Sale Page จะต้องมีเพื่อปิดการขาย
เพิ่มยอดขายให้มากขึ้น แต่ก่อนจะปิดการขาย คุณจะต้องเปิดการขายให้ได้ก่อน
1. ตัวอักษรที่โดดเด่น เห็นชัดเจน
ข้อความชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่ลูกค้าอาจจะกำลังเผชิญอยู่ และ “คุณ”
มีวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
จงเน้นตัวอักษร เมื่อข้อความนั้นสำคัญ
บางทีลูกค้าคุณไม่ได้อ่านทุกตัวอักษร เค้ากวาดสายตาดูเฉพาะหัวข้อ หรือ keyword เด่น ๆ เท่านั้น
2. วีดีโอ หรือ รูปภาพ
อธิบายลักษณะสินค้า การใช้งาน หรือลูกค้าจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากการใช้สินค้า
หรือใช้บริการ อะไรก็ว่าไป ตรงนี้ทำให้น่าสนใจได้เลยเต็มที่
–
วีดีโอหากทำให้กระชับได้จะดีมากไม่ควรมีความยาวเกินไป
– ภาพต้องคม อารมณ์ต้องได้
ทำให้ลูกค้าเห็นแล้วประทับใจ
3. Social Proof หรือ หลักฐานทางสังคม ก็เป็นอีกตัวช่วยนึง
ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น อาจจะมีคนรีวิวสินค้า
เราก็นำมาใส่ไว้ในหน้า Sale Page ด้วย
เพราะก่อนคนจะตัดสินใจซื้อ มักจะดูรีวิวของคนอื่นก่อน
ว่าใช้สินค้าหรือบริการนี้แล้ว เป็นอย่างไร
หากหยิบมาเสริมได้ ความมั่นใจของลูกค้าที่จะซื้อสินค้าของคุณมีเพิ่มขึ้นมากแน่นอน
4. Promotion
สิ่งนี้จะทำให้คุณได้ยอดขาย
เพราะผู้คนชอบซื้อหรือตัดสินใจซื้อ หากมีการกระตุ้นด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องระยะเวลาที่จะได้รับส่วนลด
การแถมสินค้าโดยมีระยะเวลาจำกัด
หรือมีสิทธิพิเศษหากซื้อผ่านทางหน้า Sale Page นี้
5. Call to Action สำคัญที่สุด คุณต้องบอกให้คนที่มาอ่าน Sale Page ของคุณทำอะไรต่อ
ระบุให้ชัดเจน เช่น –
ติดต่อเดี๋ยวนี้ แล้วคลิกเข้าไปแช็ตในไลน์
– โทรหาเราเดี๋ยวนี้
เพื่อรับส่วนลดพิเศษ
หากลูกค้าติดต่อคุณมาแล้ว...
เค้าซื้อคุณไปครึ่งนึงแล้ว เหลือเพียงทีมขายของคุณ ปิดการขายให้ได้
หากเป็นการคลิกเข้าไปซื้อสินค้า
กรุณาสร้างช่องทางให้ลูกค้าจ่ายเงินให้คุณให้ได้ง่ายที่สุด
เพราะว่าคนสมัยนี้ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยากครับ อีกอย่างคืออารมณ์ตอนที่อยากซื้อ
อาจหมดไปกับระบบเว็บไซต์ของคุณที่มันซับซ้อนก็เป็นได้
ตัวอย่างของ Sale Page อย่างง่าย (Note Facebook ,wordpress page)